ท่านอิมามโคมัยนี คือ ผู้นำการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ซึ่งถือว่าท่านนั้นมีบทบาทอย่างมากในการฟื้นฟูอิสลามกลับขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อจะทำให้ประชาคมโลกในรู้จักในชีวประวัติของท่าน ด้วยเหตุนี้ ทางศูนย์วัฒนธรรมสถานเอกอัครราชทูตสาธารณอิสลามแห่งอิหร่าน ประจำประเทศไทย จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญอันนี้ และเรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า มองชีวิตอิหม่ามโคมัยนีจากภาพถ่าย.

ชีวิตของท่านอิมามผู้ยิ่งใหญ่เปรียบเสมือนแสงสว่าง แห่งดาวประกายพฤกษ์ ซึ่งส่องประกายข่มความมืดมนแห่ง ราตรีของยุคทรราชย์ ท่านคือแหล่งแห่งการปลุกปลอบใจ และที่มาแห่งกำลังใจของบรรดาผู้ถูกกดขี่แห่งโลกนี้ ท่านคือ ผู้นำมาซึ่งกระแสแห่งความหฤหรรษ์จรรโลงใจแก่ผู้ที่ทุกข์ ทรมานอยู่ภายใต้อำนาจกดขี่และอยุติธรรม และในที่สุด ท่านผู้นำซึ่งยากจะหาผู้ใดเสมอเหมือนได้นี้ ก็ได้จากเรา ไปด้วยความดีงามของท่าน สู่พระผู้ทรงสร้าง แน่นอนเรา ทั้งมวลมาจากพระองค์ และเราต้องกลับคืนไปสู่พระองค์ ท่านอิมามโคมัยนี้เป็นนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้ทรง คุณวิเศษและเป็นบุคคลที่บริบูรณ์พร้อมด้วยประการทั้งปวง บุคลิกภาพของท่านสมบูรณ์เพียบพร้อมแสดงให้เห็นชัดถึง อัจฉริยะภาพในด้านปรัชญา ด้านวิจารณญาณและความรู้ เท่าทันในวิชาการต่าง ๆ ทั้งด้านศาสนา และด้านรัฐศาสตร์ ซึ่งท่านได้มอบให้ไว้แก่โลกในวิทยาการทุกด้านดังกล่าวนั้น แนวทางของท่าน คืออุดมคติที่ตั้งอยู่บนหลักดุลยภาพแห่ง วิจารณญาณตามหลักแห่งเหตุผลและการปฏิบัติที่สืบเนื่อง กันมาท่านได้สั่งสอนมวลมนุษย์ให้เข้าใจถึงญาณแห่งความ มีเหตุผลและความสมเหตุผล อันจะยังให้เกิดความเข้าใจ ทั้งแก่บุคคลแต่ละคนและแก่สังคมส่วนรวม ในด้านปรัชญา ท่านเป็นผู้ทรงคุณในวิชาการแห่ง สำนักคิดของอิสลามหลายสำนัก ในสาขานิติศาสตร์อิสลาม mนั้นท่านมีแนววิเคราะห์อันทรงค่ายิ่งของท่านเอง ท่านมีความ คิดเห็นเบื้องต้นในด้านหลักนิติศาสตร์อิสลาม และเปิดประตู ให้เห็นแนววิเคราะห์ใหม่ไว้สำหรับนักปราชญ์ที่จะทำการ วิจัยต่อไป ในด้านศีลธรรม ท่านเป็นผู้สนับสนุนทั้งในด้าน ทฤษฎีและการปฏิบัติ ซึ่งเป็นการชี้นำแก่ทั้งบรรดานักปราชญ์ และแก่ประชาชนโดยทั่วไป

Author

Editor

Interpreter

Common title

Number of volumes

Persian Title

Publish location

Publication year

Publish number

Publisher

Qr Code

Sect

Scholar

ISBN

Source

Translated

Translated Fields

Custom Canonical

is suggested

Rate

Indexing

SEO Title

View

Votes

มองชีวิตอิหม่ามโคมัยนีจากภาพถ่าย

คนทุกคนในโลกนี้ย่อมพยายามที่จะก้าวไปให้ถึง “ความสุข” และ “ความสงบ” และพยาม ยามดิ้นรนต่อสู้กันทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้บรรลุถึงความฝันนี้ให้สมรภูมิแห่งชีวิตซึ่งดูคล้ายกับสมรภูมิ ในสงคราม ส่วนมากแล้วมนุษย์จะต่อสู้ในสมรภูมิชีวิตนี้อย่างเต็มอกเต็มใจ ยอมเสียสละทุกๆ สิ่ง เพื่อจะได้แลเห็นปักษาแห่งความสุขโบยบินอยู่เหนือศีรษะของเขาเพื่อว่าเขาจะได้มีชีวิตอยู่ภายใต้เงาของปักษานั้นไปตลอดชีพ

อาวุธแห่งชีวิต

คุณลักษณะพิเศษประการหนึ่งของประชาชาติอิสลาม ก็คือ การเป็นผู้รู้ในอัลกุรอานและแบบแผนของอิสลามมีการเรียกร้องเชิญชวนให้มวลมุสลิมใฝ่หาความรู้ และมีการพูดถึงคุณค่าและความประเสริฐอย่างมากมายของบรรดาผู้รู้ เราจึงขอนำอัลกุรอานบางโองการและอัลฮะดีษบางบทมานาเสนอควบคู่ไปกับเรื่องที่กาลังพูดถึงอยู่นี้ โดยขอเริ่มด้วยอัลฮะดีษบทนี้ "การแสวงหาความรู้เป็นหน้าที่เหนือมุสลิมทุกคน"

อัลกุรอานกับธรรมชาติวิทยา

อัลกุรอานสำหรับเด็กและเยาวชน ญุซอ์ 30 คือชุดของบทเรียนและกิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เด็กและเยาวชนเรียนรู้อัลกุรอานอย่างสนุกสนานและเข้าใจง่าย โดยเน้นที่ ญุซอ์ที่ 30 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอัลกุรอานที่มีบทสั้นๆ จำนวนมากที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนรู้
รายละเอียดเพิ่มเติม:
ญุซอ์ 30:
ญุซอ์ 30 เป็นส่วนสุดท้ายของอัลกุรอาน ประกอบด้วยซูเราะห์ (บท) สั้นๆ จำนวนมาก เช่น อัช-ชัมส์, อัฎ-ฎุฮา, อัล-อินชีรอฮฺ, อัต-ตีน, อัล-กอดร์, อัล-อินซาน, และอื่นๆ อีกมากมาย
วัตถุประสงค์:
เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้บทเรียนต่างๆ ในอัลกุรอาน, ฝึกอ่านอัลกุรอาน, และเข้าใจความหมายของบทต่างๆ ในญุซอ์ 30
รูปแบบ:
การเรียนการสอนอาจอยู่ในรูปแบบต่างๆ เช่น หนังสือ, สื่อการสอน, การ์ตูน, หรือแอปพลิเคชัน
เนื้อหา:
นอกจากเนื้อหาในอัลกุรอานแล้ว อาจมีกิจกรรมเสริม เช่น การวาดภาพ, การเล่านิทาน, หรือการเล่นเกม เพื่อให้การเรียนรู้อัลกุรอานเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
ประโยชน์ของการเรียนรู้อัลกุรอานสำหรับเด็กและเยาวชน:
เสริมสร้างความศรัทธา:
ช่วยให้เด็กและเยาวชนเข้าใจหลักธรรมคำสอนในอิสลามและมีความศรัทธาต่อพระเจ้ามากขึ้น
พัฒนาคุณธรรม:
ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนประพฤติตนตามหลักคำสอนในอัลกุรอาน
ส่งเสริมการเรียนรู้:
การเรียนรู้ภาษาอาหรับและหลักการอ่านอัลกุรอาน ช่วยพัฒนาทักษะด้านภาษาและการเรียนรู้
สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับอัลกุรอาน:
ทำให้เด็กและเยาวชนมีความคุ้นเคยและรู้สึกใกล้ชิดกับอัลกุรอาน

อัลกุรอานสำหรับเด็กและเยาวชน ญุซอ์ 30

สภาพโดยทั่วไปของประชาชาติอิสลามยุคปัจจุบันนี้ ได้ประสบกับภาวะที่ก่อให้เกิดความเสียหายและความแตกแยกระหว่างกลุ่มต่างๆ ของอิสลาม ตลอดจนการตั้งข้อกล่าวหาซึ่งกันและกันอย่างมากมาย อีกทั้งยังได้ทำให้ประจักษ์ถึงกระบวนข้อกล่าวหา และการแทรกแซงอย่างกว้างขวางที่มีต่อ ชีอะฮ์ อิมามียะฮ์ โดยพัวพันไปถึงหลักการศรัทธาต่ออิสลามของพวกเขาตลอดจนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาจากหลักการอันนั้น และการโจมตีสิ่งเหล่านั้นเป็นไปอย่างไร้จริยธรรมและเมตตาธรรม จนกระทั่งว่า ประชาชนสามารถเห็นได้ว่า ในรอบห้าปีที่ผ่านมานี้ ปฏิกิริยาคัดค้านหลักศรัทธาของกลุ่มชนอิสลามอันยิ่งใหญ่กลุ่มนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มชนที่มีปริมาณมากถึงหนึ่งในห้าของประเทศอิสลามทั้งหมด และเป็นประชาชาติที่ถูกยอมรับว่าได้ทำหน้าที่รับใช้อย่างใหญ่หลวงต่อ อารยธรรมอิสลาม ภายใต้การนำของบรรดาผู้นำ นักปราชญ์ และมวลชนระดับต่างๆ ของคนกลุ่มนั้น เป็นปฏิกิริยาคัดค้านที่ได้รับการแพร่หลายเพิ่มขึ้นมากกว่าปฏิกิริยาคัดค้าน ที่เคยแพร่หลายในรอบหนึ่งร้อยที่ผ่านมาหลายเท่านัก

หลักเอกภาพ และการตั้งภาคี ในทัศนะอัล-กุรอาน

หัวข้อในการบรรยายครั้งนี้คือโลกจากมุมมองของศาสนาและความสัมพันธ์ระหว่างศาสนากับโลก การบรรยายครั้งนี้จะพูดถึงประเด็นที่ว่าความหมายของการถือศีลและการสละโลกตามที่แสดงออกในภาษาของศาสนาคืออะไร? หัวข้อนี้ถูกเลือกเนื่องจากในหนังสือ Nahj al-Balagha ซึ่งมีหัวข้อปรัชญา เทววิทยา จริยธรรม และสังคมต่างๆ รวมแล้วประมาณร้อยหัวข้อ บางหัวข้อถูกกล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าและมีรายละเอียดมากขึ้น และในรูปแบบและสำนวนที่แตกต่างกัน รวมถึงหัวข้อการสละโลกด้วย
หนังสือ Nahj al-Balagha มีชื่อเสียงมากที่สุดในเรื่องของการเทศนาและการถือศีล คำสองคำในหนังสือเล่มนี้ดึงดูดความสนใจอย่างมาก คำหนึ่งคือคำว่า “taqwa” และอีกคำหนึ่งคือคำว่า “dunya” หนังสือเล่มนี้แนะนำความเคร่งศาสนาด้วยสำนวนที่แตกต่างกัน และเรียกร้องให้ถือศีลและการสละโลกด้วยภาษาและสำนวนที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวข้อการสละโลกต้องการคำอธิบาย จำเป็นต้องดูว่าตรรกะของอามีร์ อัล-มุอ์มินีน อาลี (อ.ส.) ในเรื่องนี้คืออะไร? และหลักการตรรกะของอัลกุรอานเองคืออะไร? เพราะตรรกะทั้งสองนี้เป็นหนึ่งเดียวกัน
การเรียกร้องให้ละทิ้งโลกเป็นเรื่องที่หนักหน่วงในหู เพราะคำนี้มักเข้าใจว่าหมายถึงคนเราควรละทิ้งชีวิต คนเราควรเปิดพื้นที่ให้คนอื่น คนเราควรนับวันจนกว่าความตายจะมาถึง ความจำเป็นในการละทิ้งชีวิตคือการทำลายระบบสังคมและการสูญเสียอารยธรรม วัฒนธรรม และความสมบูรณ์แบบของมนุษย์ทั้งหมด และความจำเป็นของมันคือการทำลายล้าง การเสื่อมถอย และการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติ! คำนี้มักเข้าใจว่าหมายถึงการต่อสู้กับการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรือง และการสนับสนุนการทำลายล้าง แล้วเป็นอย่างนั้นจริงหรือ? อาลี (อ.ส.) เป็นผู้สนับสนุนการทำลายล้างและต่อต้านการพัฒนาหรือไม่ เป็นผู้สนับสนุนปรัชญาความยากจนหรือไม่ เขามองว่าความสุขของมนุษย์คือความยากจน ความทุกข์ ความยากไร้ ความขาดแคลนทุกสิ่ง และการละทิ้งพรและความสุขทั้งหมด และด้วยเหตุนี้ เขาจึงเรียกร้องให้มีการบำเพ็ญตบะและละทิ้งโลกนี้หรือไม่ หรือเป้าหมายและจุดประสงค์เป็นอย่างอื่น ปรัชญาเป็นปรัชญาอีกแบบหนึ่ง
ก่อนอื่นเลย เราควรทราบให้ชัดเจนว่าพื้นฐานของคำสอนของพระเจ้าคือการเชิญชวนพระเจ้าและศรัทธาในปรโลกอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าการใส่ใจปรโลกเป็นเสาหลักพื้นฐานในคำสอนของพระเจ้า เนื่องจากปรโลกถูกซ่อนไว้จากสายตา ดวงตาของนักบุญได้เห็นมันและถูกซ่อนไว้จากสายตาของผู้อื่น แต่ทุกคนมองเห็นและรู้จักโลกและแสวงหาตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องมีโรงเรียนและวิทยาลัยในโลกนี้ และผู้คนต้องอดทนต่อความยากลำบากและค่าใช้จ่าย และผู้คนจำนวนมากต้องเตรียมตัวที่จะถูกฆ่าเพื่อสิ่งที่ผู้คนแสวงหาตามธรรมชาติ ความลับของการกล่าวถึงโลกหลังความตายทั้งหมดนี้ก็คือเราต้องจดจำโลกหลังความตาย ซึ่งแตกต่างจากโลกภายนอก

ศาสนากับโลก

ท่านศาสดามุฮัมหมัด อิบนุ อับดุลลาห์ (ขอสันติภาพจงมีแด่ท่านและครอบครัวของท่าน) ศาสดาแห่งศาสนาอิสลาม และตามความเชื่อของชาวมุสลิม ท่านเป็นศาสดาคนสุดท้ายและยิ่งใหญ่ที่สุดของพระผู้เป็นเจ้า และเป็นศาสดาผู้มุ่งมั่นที่สุดคนหนึ่ง คัมภีร์อัลกุรอานเป็นหนังสือที่ถูกเปิดเผยแก่ท่าน และท่านได้รับมอบหมายให้เทศนาและอธิบายให้ผู้คนฟัง ท่านถูกส่งไปเป็นศาสดาในคาบสมุทรอาหรับ แต่คัมภีร์อัลกุรอานแนะนำท่านในฐานะศาสดาของมวลมนุษย์ในทุกยุคทุกสมัย
ท่านศาสดาได้เทศนาศาสนาอิสลามในมักกะห์เป็นเวลา 13 ปี จากนั้นเพื่อปกป้องตนเองและผู้ติดตามจากการข่มเหงของพวกพหุเทวนิยม ท่านจึงอพยพไปยังเมืองยัษริบและจัดตั้งรัฐบาลอิสลามในเมืองนั้น ซึ่งต่อมาได้รับการขนานนามว่า "เมดินาของศาสดา" เพื่อเป็นเกียรติแก่ท่าน ในปีที่ 6 ของฮิจเราะห์ ศาสดาได้ส่งจดหมายถึงผู้นำของอำนาจในสมัยนั้น ได้แก่ โรม อิหร่าน ฯลฯ เพื่อเชิญชวนพวกเขาเข้าสู่ศาสนาอิสลาม และในปีที่ 8 ของฮิจเราะห์ เขาได้พิชิตมักกะห์ และหลังจากนั้น ผู้คนบนคาบสมุทรอาหรับก็เข้าร่วมศาสนาอิสลามเป็นกลุ่มๆ
ศาสดาแห่งอัลลอฮ์ (ขอสันติภาพจงมีแด่เขาและครอบครัวของเขา) ได้แนะนำอิหม่ามอาลี (ขอสันติภาพจงมีแด่เขา) ให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งในปีที่ 10 ของปฏิทินฮิจเราะห์ และเสียชีวิตประมาณสองเดือนต่อมาในวันที่ 28 ของเดือนซาฟาร์ ซึ่งเป็นปีที่ 11 ของปฏิทินฮิจเราะห์

มุฮมั มดั ศาสนทูตแห่งอลัลอฮ

ศูนย์วัฒนธรรมสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านประจำกรุงเทพฯ
เช่นเดียวกับศูนย์วัฒนธรรมอื่นๆของอิหร่านในต่างประเทศ ซึ่งดำเนินงานในประเทศไทยโดยมีเป้าหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ พัฒนาและส่งเสริมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองประเทศไทย-อิหร่าน
กิจกรรมอย่างเป็นทางการของศูนย์วัฒนธรรมนี้เริ่มต้นในปีฮ.ศ.1981 ในสถานที่ที่เป็นเอกเทศตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
เพื่อพยายามแนะนำอิหร่าน ณ ปัจจุบัน โดยเฉพาะอธิบายโคงสร้างและแนะนำความสำเร็จของการปฏิวัติอิสลามและระบอบสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน โดยมีกิจกรรมลงนามข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับศูนย์ราชการ ศาสนา วิชาการ วัฒนธรรม และศิลปะของประเทศไทย จัดการประชุมทางวิชาการ การประชุมระดับนานาชาติ ดำเนินการวิจัยด้านวัฒนธรรมและวิชาการ จัดงานรับรางวัลทางวิชาการอิหร่านร่วมสมัย จัดสัปดาห์วัฒนธรรมและสัปดาห์ภาพยนตร์ในกรุงเทพฯ ดำเนินการร่วมมือด้านสื่อ และห้องการเรียนการสอนภาษาเปอร์เซีย จัดหลักสูตรสอนภาษาเปอร์เซีย ส่งนักศึกษาและอาจารย์ไปอิหร่านเพื่อร่วมหลักสูตรเสริมความรู้ จัดนิทรรศการต่างๆในด้านศิลปะและประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของอิหร่าน อัลกุรอาน หนังสืออิสลาม เชิญกลุ่มนักดนตรีอิหร่านพื้นเมืองมาแสดงโชว์ เข้าร่วมงานมหกรรมหนังสือนานาชาติในกรุงเทพฯ เป็นต้น ถือเป็นเป้าหมายและกิจกรรมของศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้

persian title

address

Founded

mail

phone

ศูนย์วัฒนธรรมสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน

ศูนย์วัฒนธรรมสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน

ศูนย์วัฒนธรรมสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน

Publisher Books

Contact info

Location